แบตเตอรี่รถยนต์ แตกระเบิด เกิดจาก?
จุดวาบไฟของแบตเตอรี่น้ำ
จุดวาบไฟ (Flash Point) คือ อุณหภูมิต่ำที่สุดที่ของเหลวไวไฟสามารถปล่อยไอระเหยออกมาได้เพียงพอที่จะ ติดไฟได้ เมื่ออยู่ใกล้ เปลวไฟหรือแหล่งจุดประกาย ในสภาพความดันบรรยากาศปกติ (ประมาณ 1 บรรยากาศ)
ให้เข้าใจง่าย:
จุดวาบไฟ ไม่ใช่อุณหภูมิที่ของเหลวลุกไหม้เอง
เป็นเพียง อุณหภูมิที่ไอของเหลวนั้นเริ่มติดไฟ เมื่อมีแหล่งจุดติด เช่น ไฟแช็กหรือประกายไฟ
ถ้าต่ำกว่าจุดวาบไฟ ของเหลวนั้นจะไม่สามารถติดไฟได้ เพราะยังระเหยออกมาไม่พอ
แบตเตอรี่น้ำ (หรือแบตเตอรี่แบบเติมน้ำกลั่น เช่น แบตเตอรี่ตะกั่ว-กรด หรือ Lead-acid battery) นั้น ไม่ได้มีจุดวาบไฟในแบบเดียวกับของเหลวไวไฟทั่วไป อย่างเช่นน้ำมันหรือแอลกอฮอล์ เนื่องจากของเหลวหลักในแบตเตอรี่น้ำคือ กรดกำมะถันเจือจาง (H2SO4) ซึ่งมีคุณสมบัติดังนี้:
จุดวาบไฟของแบตเตอรี่น้ำ:
- กรดกำมะถัน (Sulfuric Acid 30-50%) ไม่มีจุดวาบไฟ (Flash Point)
- เพราะเป็นสารไม่ติดไฟโดยตรง
- แต่เมื่อแบตเตอรี่อยู่ในสภาวะชาร์จหรือทำงาน จะเกิด ก๊าซไฮโดรเจน (H2) ซึ่งมี จุดวาบไฟ
- ต่ำมาก ประมาณ -253°C
ดังนั้น อันตรายที่เกี่ยวข้องกับ "จุดวาบไฟ" ของแบตเตอรี่น้ำคือ:
ไม่ใช่กรดที่ติดไฟ แต่เป็น "ก๊าซไฮโดรเจน" ที่เกิดจากปฏิกิริยาไฟฟ้าเคมีระหว่างการชาร์จ
ก๊าซไฮโดรเจน ไวไฟมาก และเมื่อรวมกับออกซิเจนในอากาศอาจเกิด การระเบิด ได้
ถ้าระบายอากาศไม่ดี หรือมีเปลวไฟ/ประกายไฟใกล้แบตที่กำลังชาร์จ อาจ ทำให้เกิดการลุกไหม้หรือระเบิด
ข้อควรระวังในการใช้งานแบตเตอรี่น้ำ:
- หลีกเลี่ยงการใช้หรือชาร์จใกล้แหล่งประกายไฟ
- ต้องมีการระบายอากาศที่ดี
- ตรวจสอบว่าไม่มีฝาปิดแน่นเกินไปจนก๊าซสะสม
- ไม่สูบบุหรี่ใกล้บริเวณชาร์จแบต
จุดวาบไฟของแบตเตอรี่น้ำ
แบตเตอรี่น้ำ (แบบตะกั่ว-กรด) ใช้กรดกำมะถันเจือจางซึ่ง ไม่มีจุดวาบไฟ จึงไม่ติดไฟโดยตรง แต่เมื่อแบตเตอรี่อยู่ในสภาพใช้งานหรือชาร์จไฟ จะเกิด ก๊าซไฮโดรเจน (H2) ที่สามารถ ติดไฟได้ง่าย และมี จุดวาบไฟต่ำมาก ประมาณ -253°C
ดังนั้นอันตรายที่แท้จริงจึงมาจาก ก๊าซไฮโดรเจน ไม่ใช่ตัวน้ำกรดเอง
ควรใช้งานในที่อากาศถ่ายเท และหลีกเลี่ยงเปลวไฟหรือประกายไฟใกล้แบตเตอรี่